สรุปดราม่า แนนซี เพโลซี เยือนไต้หวัน เพราะเหตุใดจีนถึงเดือดดาล?

สรุปดราม่า แนนซี เพโลซี เยือนไต้หวัน เพราะเหตุใดจีนถึงเดือดดาล?

สรุปดราม่า แนนซี เพโลซี เยือนไต้หวัน หาคำตอบทำไมจีนถึงเดือดดาล ขณะที่ชาวโลกหวั่นว่าจะเกิดสงครามขึ้นระหว่าสองมหาอำนาจ จากกรณีที่ แนนซี เพโลซี เยือนไต้หวัน เมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.44 น. ตามเวลาท้องถิ่น เครื่องบินโบอิ้ง C-40 C ,SPAR19 ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ลงจอดที่ไต้หวัน โดยไม่สนคำขู่ของจีน จนทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า จะนำไปสู่สงครามหรือไม่นั้น

ในวันนี้ทางสำนักข่าว TheThaiger จึงอยากย้อนความถึงปมปัญหาความขัดแย้งนี้ ว่าเพราะเหตุใด เพโลซีเยือนไต้หวัน ถึงสร้างความไม่พอใจให้กับประเทศจีนเป็นอย่างมาก

ไต้หวัน แม้จะมีรัฐบาลของตนเอง แต่ยังอยู่ภายใต้การปกครองจีน ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา จีนได้แยกไต้หวันออกจากเวทีโลก และป้องกันทุกวิถีทางไม่ให้ ไต้หวัน เข้าร่วมกับองค์กรต่างชาติ ดังนั้นแล้วการเคลื่อนไหวใดๆที่ทำให้ไต้หวันเหมือนมีส่วนกับนานาชาติมักจะต่อต้านจากจีน

ตัวอย่างที่ดีที่สุดคือในปี 2538 เมื่อนาย หลี่ เติงฮุย ผู้นำไต้หวันในขณะนั้นเดินทางเยี่ยมสหรัฐฯ ได้ส่งผลให้ทางจีนยิงขีปนาวุธหลายลูกตกลงในมหาสมุทรรอบๆไต้หวัน วิกฤติครั้งนั้นจบลงเมื่อทางการสหรัฐฯบรรทุกเครื่องบินรบมาจอดไว้พื้นที่เพื่อแสดงพลังสนับสนุนไต้หวัน

จริงอยู่ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อดีตวุฒิสมาชิกของสหรัฐฯจะเดินทางเยือนไต้หวันหลายครั้ง แต่การเยือนของ แนนซี เพโลซี นั้นต่างออกไปอย่างมาก เนื่องจาก แนนซี เพโลซี ในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา ถือเป็นบุคคลที่มีอำนาจใหญ่สุดเป็นอันดับสามรองจากนาย โจ ไบเดน ประธานาธิบสหรัฐฯ และ กมลา แฮรร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯเท่านั้น

ทางการจีนมองว่าการที่ แนนซี เพโลซี เยือนไต้หวัน เป็นการละเมิดข้อตกลงร้ายแรงระหว่างการปกครองของจีนสหรัฐฯ พร้อมเตือนว่า  “คนที่เล่นกับไฟ จะจบไม่สวย” พร้อมกล่าวว่าเป็นการละเมิดหลักการจีนเดียว และจะส่งผลกระทบความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาได้ และยังเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนของจีน

ทั้งนี้ทางการสหรัฐฯโต้ตอบคำขู่ว่าพวกเขาไม่กลัวขู่ของจีนและพวกเขาไม่สนใจเสียงเคาะดาบ พร้อมระบุว่า ไม่มีเหตุผลใดๆที่การเยือนไต้หวัน ของ แนนซี เพโลซี ในครั้งนี้จะนำไปสู่ความขัดแย้ง เนื่องจากสหรัฐฯไม่ได้ละเมิดนโยบายใดๆ

นโยบายที่ว่านี้อ้างอิงจาก CNN คือการที่ ทางการสหรัฐฯว่าจีนเป็นผู้ปกครองเพียงคนเดียวของประเทศจีน และยอมรับว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน แต่ว่าในขณะเดียวกันทางการสหรัฐฯ ไม่เคยยอมรับว่าพรรคคอมมิวนิสต์ของจีนมีอำนาจอธิปไตยเหนือเกาะไต้หวัน

ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา ไต้หวันและสหรัฐฯ มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้น และส่งอาวุธให้ไต้หวัน เรื่อยๆ ทว่าหากจีนบุกไต้หวัน ก็ยังไม่มีความแน่ชัดว่าสหรัฐฯจะป้องกันจีนหรือไม่ ซึ่งนโยบายนี้เป็นการป้องกันไม่ให้ไต้หวันประกาศอิสรภาพขณะที่ป้องกันไม่ให้เกิดสงครามในเอเชีย

ตามกำหนดนั้นหลังจากที่เยี่ยมสภาแล้ว เพโลซี่ จะเข้าพบกับ นาง ไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวันอีกด้วย นอกจากนี้ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา จะมีกำหนดเข้าพบกับกลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยไต้หวันเช่นเดียวกัน

‘แนนซี เพโลซี่’ ถึงทำเนียบไต้หวัน ลั่นไต้หวันเป็นสังคมอิสระ

แนนซี เพโลซี่ เดินทางถึงทำเนียบ ไต้หวัน แล้ว ลั่นไต้หวันเป็นสังคมอิสระ จับตาวันนี้เข้าพบกับ ไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวันต่อ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม สำนักข่าว CNN รายงานถึงภารกิจของแนนซี่ เพโลซี่ เยือนไต้หวัน หลังจากที่เมื่อประมาณช่วง 22.44 น. ตามเวลาท้องถิ่น เครื่องบินโบอิ้ง C-40 C ,SPAR19 ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา ได้ลงจอดที่ไต้หวัน โดยไม่สนคำเตือนของทางการจีน

ในวันนี้นาง เพโลซี่ ใส่ชุดสีขาวเข้าพบกับวุฒิสมาชิกไต้หวันจากแต่ละตัวแทนของพรรค อย่างไรก็ดีนาง เพโลซี่ จะไม่ได้กล่าวสุนทรพจน์ ต่อสมาชิกทุกคน เนื่องจากขณะนี้อยู่ในช่วงพักฤดูร้อน เพโลซี่ บรรยายถึงไต้หวันว่า ไต้หวันเป็นสังคมอิสระ

ตามกำหนดนั้นหลังจากที่เยี่ยมสภาแล้ว เพโลซี่ จะเข้าพบกับ นาง ไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวันอีกด้วย นอกจากนี้ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา จะมีกำหนดเข้าพบกับกลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยไต้หวันเช่นเดียวกัน

ขณะที่ทางการจีนได้ออกมากล่าวถึงการเยือนไต้หวันในครั้งนี้ว่า “คนที่เล่นกับไฟ จะจบไม่สวย” พร้อมกล่าวว่าเป็นการละเมิดหลักการจีนเดียว และจะส่งผลกระทบความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาได้ และยังเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนของจีน

ด้านทางการสหรัฐฯ กล่าวว่าโต้ตอบทางการจีนว่าพวกเขาไม่เกรงกลัวต่อ “เสียงเคาะดาบ” ของจีน

ก่อนที่ตำรวจจะกดนาย ฟลอยด์ ลงกับพื้น ซึ่งนาย เชาวิน เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กดคอของชายผิวดำคนดังกล่าวนานถึง 9 นาที ท่ามกลางประชาชนที่อ้อนวอนขอให้ปล่อยตัว และเสียงอ้อนวอนของผู้ตาย

เมื่อรถพยาบาลมาถึง นาย ฟลอยด์ อยู่ในสภาพแน่นิ่ง และทางโรงพยาบาลประกาศว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้วในชั่วโมงถัดมา

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป